มหากาพย์เจาะลึก!! 9 วิชาสามัญ เจาะลึกละเอียดทั้งเทคนิคและวิธีการเตรียมตัว

จากตอนที่แล้วที่เรารู้กันไปแล้วว่า กสพท. เป็นยังไง แล้วเอาคะแนนไปทำอะไรได้บ้าง ในตอนนี้พี่จะมารีวิวเจาะลึกกันว่า แต่ละวิชา คาร์แร็กเตอร์ของการเตรียมตัวสอบเป็นยังไงบ้างนะครับ การเตรียมตัวจะมองจากมุมมองพี่เอง ซึ่งเตรียมสอบ กสพท. ในเวลาประมาณสี่เดือน โดยที่ตอนนั้นที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างโอเค แต่แกรมม่าร์ก็ไม่ได้แข็งมาก ส่วนวิชาอื่นๆไม่โอเคเลย โดยเฉพาะวิชาสายคำนวณ

วิชาสามัญในปีนี้สอบวันที่ 17-18 มีนาคม 2561 โดยสอบวิชาละ 90 นาทีนะครับ

ชีววิทยา – ปกติวิชานี้จะสอบเป็นวิชาแรกเลยของการสอบวิชาสามัญ โดยเมื่อก่อนวิชานี้เนี่ย จะมี 100 ข้อ 100 คะแนน น้องๆคงบ่นว่าทำไม่ทันกันรึเปล่าไม่รู้ ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา สทศ. ก็เลยจัดมาเป็น 80 ข้อ 100 คะแนน หรือข้อละ 1.25 คะแนนแทน ถามว่ามีอะไรเปลี่ยน ก็บอกเลยว่ายากขึ้นเยอะเลย ในแง่ว่าข้อสอบแต่ละข้อก็มีการคิดวิเคราะห์ที่ซับซ้อนขึ้นนั่นเอง เมื่อวิชานี้มีเนื้อหาเยอะไปหมดจนเรียกว่าอ่านตรงไหนก็ออก แต่พอจำนวนข้อลดลง เวลาเตรียมตัวสอบก็พยายามเน้นในแม่นๆทีละบท บทไหนอ่านไปแน่นพอก็ทำได้แน่นอน ส่วนบทไหนอ่านไม่แน่นก็… ระวังหลุดนะครับ สำหรับน้องๆคอร์สความถนัดแพทย์ พี่ฝากโน้ตย่อชีวะของตัวพี่เองไว้ให้ก็อย่าลืมเข้าไปโหลดกันนะครับ ไฟล์อยู่ในระบบเรียนเลย

ฟิสิกส์ – วิชานี้คนที่หัวดีหน่อยจะว่าง่าย เอาจริงๆถ้าโรงเรียนใครเรียนฟิสิกส์ยาก… มาเจอข้อสอบนี้จะบอกว่าง่ายกันไปทันทีเลยนะครับ ข้อสอบโดยมากก็จะเน้นออกสูตรหรือทฤษฎีแบบแทนตอบเป็นตัวแปรมากกว่าที่จะเน้นคำนวณถึกๆ ดังนั้นข้อไหนจับทางออกคิดต่ออีกนิดเดียวก็ได้คำตอบแล้ว ข้อสอบ 25 ข้อ ข้อละ 4 คะแนน ตอนปีพี่สอบพี่เองทำเสร็จตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแบบชิลๆ แถมได้ร้อยเต็มด้วยทั้งๆที่เป็นคนที่ไม่ได้เก่งฟิสิกส์มาก่อนเลย ดังนั้นส่วนตัวมองว่าวิชานี้เป็นวิชาที่อ่านแล้วคุ้มวิชานึงเลย ใช้เวลาในการอ่านและเรียนไม่มากและเพิ่มคะแนนได้จริง

ภาษาไทย – ข้อสอบกว่า 80% เป็นข้อสอบส่วนที่เป็นการอ่าน คิดวิเคราะห์ซึ่งสามารถอ่านแล้วตอบได้เลย ตรงนี้แนะนำให้เราแค่จับคอนเซ้ปต์หลักๆพอโดยไม่ต้องเน้นกับการเตรียมตัวสอบมาก เพระส่วนใหญ่คะแนนวิชานี้มักออกมาสูงอยู่แล้วแม้เตรียมตัวไม่มาก พูดไปหลายๆคนก็ไม่เชื่ออยากลงคอร์สอยู่ดีก็แนะนำว่าภาษาไทยของวิชาสามัญไม่เหมือนกับภาษาไทยโอเน็ตนะครับ (คนละแนวกัน) แนะนำให้ลงคอร์สวิชาสามญไปเลยจะดีกว่า

สังคม – ข้อสอบสังคมจะออกยาก แล้วด้วยความที่มันมี 50 ข้อนี่แต่ละอย่างนี่จัดเต็มเลยทีเดียว ข้อดีของสังคมคือมันจะมี 5 สาระ สาระละ 10 ข้อแบบพอดี ทำให้เราสามารถเตรียมตัวเฉพาะแค่บางสาระได้ ไม่ต้องอ่านกวาดหากเราต้องการแค่สอบติด แต่ไม่ได้อยากได้ตะแนนแบบเป็นที่หนึ่ง พี่เองเป็นคนที่ทุ่มเทกับการอ่านสังคมประมาณนึงนะ เพราะไม่ถนัดคำนวณไง ก็สำหรับการเตรียมตัวสังคมทุกสาระ พี่ได้มา 68 ครับ อาจจะไม่เยอะมากแต่ก็เป็นคะแนนส่วนนึงที่ทำให้เราได้เปรียบคนอื่นเช่นกันครับ

ภาษาอังกฤษ – ข้อสอบภาษาอังกฤษของวิชาสามัญเนี่ยนอกจากจะยากแล้ว แนวข้อสอบยังเป็นแนวเฉพาะอีกด้วยนะ พวก conversation ก็ธรรมดาทั่วไป ส่วน reading เนี่ยจะยากทั้งการตีความ ศัพท์ และเนื้อหาเลย ส่วนพาร์ท writing ที่มีแนวข้อสอบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเนี่ย ก็เป็นข้อสอบวัดทักษะในการเขียน writing ของน้องจริงๆครับ เรียกว่าข้อสอบออกมาเอาใจคนเก่งภาษาอังกฤษมาก่อน ถามว่าเพิ่งมาเตรีสมตัวปั๊มคะแนนได้มั้ย ก็ตอบว่าได้นะ พี่สอนดี ? แต่ก็ไม่ได้ปั๊มได้จนสูงลิ่วเหมือนวิชาอื่นๆ แต่ก็สูงพอที่จะไปเป็นแต้มต่อคนอื่นได้นะครับ

คณิตศาสตร์ – วิชาคำนวณไม้เบื่อไม้เมาพี่เลย! สอบหมอไม่ชอบวิชานี้เข้าใจได้ แต่วิชานี้ออกง่าย และโคตรคุ้มเลยที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อเรียนวิชานี้ อย่างพี่ตอนสอบ มข ได้เลข 32/100 แต่พอมาสอบวิชาสามัญพี่ก็ได้เลข 84/100 สี่เดือนมันพัฒนาได้จริงๆนะน้อง ข้อสอบวิชานี้ตรงไปตรงมาไม่ได้ยากเหมือน PAT1 บอกเลย เตรียมแล้วคุ้ม ทุ่มแล้วได้ 20% เก็บเลยครับน้อง

เคมี – วิชานี้ออกกลางๆ ไม่ได้ยากหรือง่าย ข้อดีของวิชานี้ก็คือข้อสอบมีแนวคงที่ สามารถคาดเดาได้ เรียกว่ามีเวลาเท่าไหร่ เตรียมเท่านั้น ได้เท่านั้นแน่นอน รับรองไม่เว่อร์ หลุดโผแบบสังคมหรอก สำหรับน้องๆหลายคนบอกว่าข้อสอบฉบับนี้เป็นสปีดเทสต์ คำแนะนำสำหรับคนทำช้า (จดไว้) ก็คือพยายามทำข้อบรรยายก่อน ทำให้ถูก อย่าทำให้เร็ว สำหรับคนที่ไม่ได้เก่งเคมีเลย วิชานี้พอสู้ไหวอยู่ ค่อยๆเก็บให้แม่นเป็นบทๆไป

สามวิชานี้คะแนนหนักทุกอันเลย อยากให้ได้ภาษาอังกฤษหรือคณิตสูงๆอย่างน้อยซักตัวนึงก็ยังดี ส่วนเคมีก็แล้วแต่ความชอบ ความถนัดของน้องๆเลย

ทุกคนมีความชอบ ความถนัดต่างกัน และกสพท. ดูเฉพาะคะแนนรวม ดังนั้นถ้ารู้คาแรกเตอร์ของแต่ละวิชาแล้ว เราก็คงจะรู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง ไหนมาลองบอกวิชาทำคะแนนของน้องๆมากันหน่อย 🙂

แม็ทธิว